คีแรน แม็คไกวร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินฟุตบอลได้ออกมาอธิบายว่า ลิเวอร์พูลสามารถจ่ายเงินก้อนโตระดับ 120 ล้านปอนด์ในการเซ็นสัญญากับ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าชาวสวีดิชของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้สบายๆ เพราะยังเหลือช่องว่างทางการเงินอีกมากภายใต้กฏกำไรและความยั่งยืน (PSR)
หงส์แดงภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สล็อต โชว์ฟอร์มสุดยอดในฤดูกาลแรก คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 20 ได้สำเร็จ และเสริมทัพทันทีเพื่อป้องกันแชมป์ โดยคว้า มิลอช เคียร์เคซ, เจเรมี่ ฟริมปง และ โฟลเรียน เวียตซ์ มาร่วมทีมแล้ว แม้จะเสีย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ให้เรอัล มาดริด
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าลิเวอร์พูลยังไม่หยุดช้อป และมีรายงานว่ากำลังให้ความสนใจดึง อิซัค มาเสริมแดนหน้า
อิซัค ทำไป 62 ประตูจาก 109 นัดให้กับสาลิกาดงนับตั้งแต่ย้ายมาในปี 2022 ทำให้การดึงตัวเขาออกจากถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน
แม็คไกวร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินฟุตบอล เปิดเผยกับ บีบีซีว่า แม้การคว้าตัวอเล็กซานเดอร์ อิซัคจะเป็นดีลที่มีราคาสูง แต่ลิเวอร์พูลยังมีช่องว่างทางการเงินอีกมากภายใต้กฎกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก (PSR) และสามารถใช้จ่ายเพื่อคว้าตัวนักเตะรายนี้ได้
และจนถึงตอนนี้ในช่วงซัมเมอร์ พวกเขาใช้เงินไปแล้วกว่า 170 ล้านปอนด์ แต่เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่ายที่ค่อนข้างน้อยในตลาดรอบก่อนๆ ก็ยังอยู่ภายใต้กรอบของกฎ PSR ซึ่งอนุญาตให้สโมสรขาดทุนสะสมไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ภายในระยะเวลา 3 ปี
แม็คไกวร์ กล่าวว่า ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรที่บริหารการเงินฉลาดมาก พวกเขาอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับทีมใหญ่กลุ่มบิ๊กซิกซ์ ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลใช้เงินน้อยที่สุดเพียง 325 ล้านปอนด์ ซึ่งตัวเลขนี้รวมดีลของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ แล้วด้วย
พวกเขายังมีงบให้ขยับอีกมาก และดีลสำหรับกองหน้ามักจะจ่ายเป็นงวดๆ ทำให้สามารถกระจายภาระค่าใช้จ่ายได้หลายฤดูกาล