ฟีฟ่า ประกาศยกให้ เชลซี เป็นแชมป์สโมสรโลกทีมแรกอย่างเป็นทางการ หลังซิวแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน พร้อมปรับสถิติเดิมของลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้ และทีมดังอื่น ๆ ให้เป็นเพียงแชมป์ อินเตอร์คอนติเนนตัล
ชัยชนะสุดเซอร์ไพรส์จาก โคล พาลเมอร์ ที่ยิง 2 จ่าย 1 ช่วยให้ทีมสิงโตน้ำเงินครามผงาดคว้าแชมป์โลก พร้อมรับเงินรางวัลก้อนโต และกลายเป็นสโมสรแรกที่ถูกบันทึกว่าเป็น "แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ" อย่างเป็นทางการในระบบใหม่
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้แฟนบอลช็อกไปมากกว่านั้นคือ ฟีฟ่า ได้ปรับสถานะของแชมป์โลกสโมสรเดิมทั้งหมด รวมถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2008), ลิเวอร์พูล (2019) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2023) ให้กลายเป็นเพียง แชมป์ฟีฟ่า อินเตอร์คอนติเนนตัล หรือแชมป์ระหว่างทวีปเท่านั้น
ขณะที่ยอดทีมอย่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา ที่เคยคว้าแชมป์หลายสมัยก็ไม่รอดพ้นจากการปรับสถานะนี้เช่นกัน โดยการแข่งขันสโมสรโลกเวอร์ชันเก่ามีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2000 ก่อนจะจัดต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ 20052023 โดยมีทีมเข้าร่วมเพียง 68 ทีม ก่อนถูกยกระดับเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่แบบ 32 ทีมในปี 2025 ซึ่ง เชลซี คือผู้ชนะในเวอร์ชันใหม่
โพสต์จากบัญชีอย่างเป็นทางการของ ฟีฟ่า ยืนยันสถานะใหม่ของเชลซี พร้อมแคปชันว่า: The first ever FIFA CWC Champions เป็นการย้ำชัดเจนว่าอดีตแชมป์ทั้งหลายถูกจัดไว้ในอีกหมวดไปแล้ว
แชมป์สโมสรโลก รูปแบบเดิม (ฟีฟ่า อินเตอร์คอนติเนนตัล)
2000 โครินเธียนส์ (บราซิล)
2005 เซา เปาโล (บราซิล)
2006 อินเตอร์นาซิออนนาล (บราซิล)
2007 เอซี มิลาน (อิตาลี)
2008 แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
2009 บาร์เซโลน่า (สเปน)
2010 อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)
2011 บาร์เซโลน่า (สเปน)
2012 โครินเธียนส์ (บราซิล)
2013 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)
2014 เรอัล มาดริด (สเปน)
2015 บาร์เซโลน่า (สเปน)
2016 เรอัล มาดริด (สเปน)
2017 เรอัล มาดริด (สเปน)
2018 เรอัล มาดริด (สเปน)
2019 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
2020 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)
2021 เชลซี (อังกฤษ)
2022 เรอัล มาดริด (สเปน)
2023 แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)
แชมป์สโมสรโลก รูปแบบใหม่ (ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ)
2025 เชลซี (อังกฤษ)