คีธ แฮ็คเก็ตต์ อดีตหัวหน้าผู้ตัดสินของพรีเมียร์ลีก เชื่อว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังกัปตันทีมของลิเวอร์พูล ควรโดนใบแดงมากกว่านี้ในสองฤดูกาลหลังจากหลายพฤติกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสนาม 

แฮ็คเกตต์มองว่ากองหลังชาวดัตช์รอดพ้นจากใบแดงหลายใบในสองฤดูกาลหลังสุด และตอนนี้เขาควรได้รับโทษแบนจากเหตุการณ์หลายครั้ง หนึ่งในเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับฟูแล่มเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเขาจับ ซานเดอร์ เบอร์เก้  ฟาดแขน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำหลายครั้งในฤดูกาลนี้ เช่นกับ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ของอาร์เซนอลเมื่อเดือนธันวาคม 

ในการพูดคุยกับ เดอะ เทเลกราฟ แฮ็คเกตต์เชื่อว่าการสนทนาระหว่าง กัปตันทีม ลิเวอร์พูลและผู้ตัดสินก่อนเกมอาจมีบทบาทสำคัญในการทำให้เขาหลีกเลี่ยงการถูกแบน 

“สิ่งหนึ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือ หนึ่งชั่วโมงก่อนเกมจะเริ่มเฟอร์จิล ฟาน ไดค์จะเข้าไปในห้องแต่งตัวของผู้ตัดสินพร้อมกับผู้จัดการทีม และได้รับการแนะนำตัว จากนั้นเขาจะถูกมองว่าเป็นตัวกลางระหว่างผู้ตัดสินและผู้เล่นในแง่ของพฤติกรรม” 

“ผมแค่สงสัยว่าการสนทนาระหว่างผู้ตัดสินกับฟาน ไดค์นั้นเป็นมิตรกันดีหรือไม่ และผู้ตัดสินกำลังตกอยู่ในกับดัก แต่สำหรับผมแล้ว ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าผู้เล่นคนนี้ได้กลายเป็นผู้กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และผู้ตัดสินการแข่งขันล้มเหลวในการใช้มาตรการลงโทษที่เหมาะสม” 

ฟาน ไดค์ได้รับใบเหลือง 5 ครั้งกับลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ แต่เขาก็รอดพ้นจากการโดนใบแดงได้ แม้ว่าเขาจะเหวี่ยงแขนและเข้าปะทะไหล่กันอย่างน่ากังขาก็ตาม คำกล่าวอ้างของแฮ็คเกตต์ที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างกองหลังกับผู้ตัดสินทำให้เขาถูกไล่ออกนั้นดูรุนแรงเกินไป แต่หากเขายังคงสร้างช่วงเวลาที่น่ากังขาต่อไป เรื่องราวอาจเปลี่ยนไป และแฟนๆ อาจมองกองหลังในตำนานคนนี้ในมุมมองที่ต่างออกไป